“เลย” เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตในภาคอีสาน เมืองที่สวยงามทั้งธรรมชาติ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต อาหารการกิน ก็อร่อยไม่แพ้ที่ไหน ภายในจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลาย มีวัดวาอารามสวยๆ รวมไปถึงความเชื่อ ศรัทธา มีประเพณีที่น่าสนใจมากมาย “เลย” จึงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่ใช่น้อย ผู้คนต่างก็แวะเวียนมาเที่ยวตลอดทั้งปีเลยล่ะ และบอกเลยว่าสายธรรมชาติไม่ควรพลาด เพราะที่เลย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมาก รอให้คุณไปสัมผัส มาแพลนไปเที่ยวเลยกันดีกว่า กับ 26 พิกัดเที่ยวเลย 3 วัน 2 คืน : ภูพระ ภูลมโล ด่านซ้าย นาแห้ว เชียงคาน ภูเรือ ตามไป เที่ยวเลย กัน เที่ยวเลย เที่ยวเลย เที่ยวเลย เที่ยวเลย
โพสนี้จะเป็นการเที่ยวตามลำดับ เพื่อนๆที่ตามเที่ยวสามารถ กด GPS แล้วเดินทางตามได้เลยครับ เที่ยวเลย เที่ยวเลย กัน!!
วันที่ 1 ด่านซ้าย-นาแห้ว
1.ภูพระ บ้านหมากแข้ง
เริ่มต้นทริปกันแต่เช้า ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ ภูพระ บ้านหมากแข้ง อำเภอด่ายซ้าย
ภูพระ ที่เที่ยวแห่งใหม่ของ บ้านหมากแข้ง ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เป็นบริเวณของพื้นที่ที่รวบรวมพระพุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 2.5 เมตร สูง 3 เมตร และหนักกว่า 3 ตัน ที่ชำรุดทรุดโทรม มาบูรณะปฏิสังขรณ์ แล้วสร้างใหม่ ตั้งบนเนินเขาสูง สร้างให้เป็นแลนด์มาร์ค ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเลย ที่สวยงามและโดดเด่นมากๆ
ติอต่อสอบถาม
จุดรถรับส่งขึ้นภูพระ บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย 42120
ค่ารถ 300฿ นั่งรถอิแต๊กไม่เกิน 6 คน
LINE : http://line.me/ti/p/~decho55555
โทร : 096-2467833
เวลาให้บริการรถนำเที่ยว05:00 – 18:00 น.
GPS: https://goo.gl/maps/qiVqF8XbRardWbtRA
ผมขึ้นไปตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เลยได้โอกาสถ่ายดาวมาฝากเพื่อนๆด้วยครับ
ออกจากภูพระประมาณ 8 โมงเช้า จุดหมายต่อไปของเราภูลมโล ห่างจากภูพระ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
2.ภูลมโล ชมดอกพญาเสือโคร่ง
“หุบเขาสีชมพู” เป็นฉายาของภูลมโล ยามเมื่อดอกนางพญาเสือโคร่งพร้อมใจกันเบ่งบาน ประมาณปลายธันวาคมถึงมกราคม ของทุกปี ย้อมหุบเขาแห่งนี้ให้กลายเป็นสีชมพูดูน่าตื่นตาตื่นใจ สะกดให้ผู้มาเยือนหลงใหลไปตามๆ กัน
ภูลมโล ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ เลย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ปัจจุบันภูลมโลถือเป็นแหล่งปลูกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีมากมายหลายหมื่นต้น บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่
ทริปนี้เรามาขึ้นโดยทาง “ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน” ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยวที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจาก “โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย” (Amazing Thailand Safety & Health Administration) หรือที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อและตราสัญลักษณ์ “SHA”
ติดต่อสอบถาม ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนกกสะทอน
โทร 062-557-0912
Inbox: https://www.facebook.com/phulomlo.koksathon
GPS: https://goo.gl/maps/2Cx1vR3hyLzSZfx4A
ออกจากภูลมโลประมาณ 11 โมง จุดหมายต่อไปวัดเนรมิตวิปัสสนา ห่างจากจุดขึ้นรถภูลมโล 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
3.วัดเนรมิตวิปัสสนา ด่านซ้าย
วัดเนรมิตวิปัสสนา ตั้งอยู่ในอำเภด่านซ้าย จังหวัดเลย วัดตั้งอยู่สูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรัก เพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง และมีพระอุโบสถขนาดใหญ่ตกแต่ง อย่างวิจิตรงดงามตามศิลปะภาคกลาง มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ออกแบบ โดยพระและเณร มีภาพจิตรกรรมที่สวยงามประดับอยู่โดยรอบ มีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน และมี หุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อพระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและได้มรณภาพแล้ว บริเวณพื้นที่โดยรอบมี การจัด แต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงามและมีต้นไม้ที่ สำคัญทางพุทธศาสนา คือ ” ต้นสาละ” เป็นต้นไม้ที่ พระพุทธเจ้าทรงประสูติ เป็นสถานที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้ายไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม
GPS: https://goo.gl/maps/7BjxRCD6GPfnkKVG6
4.ร้านแม่คำพัน ด่านซ้าย อาหารพื้นเมืองเมนูน้ําผักสะทอน
ร้านแม่คำพัน ที่นี่มีเมนูอาหารอย่างนึงที่ไม่ใช่ ส้มตำธรรมดา แต่มีความแปลกเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร คือ ส้มตำน้ำผักสะทอน ครับ ก็เหมือนส้มตำทั่วไปแต่มีการเติม “น้ำผักสะทอน” ที่เป็นพืชเฉพาะถิ่นของอำเภอด่านซ้ายเข้าไปในกระบวนการปรุงรส นอกจากจะมีอาหารอีสานอย่างตำไท ตำลาวแล้ว ยังมีอาหารพื้นบ้านไทด่าน อย่างเช่น เมี่ยงทูน เมี่ยงโค้น ที่เป็นเมี่ยงเฉพาะถิ่น ไม่ใช่เมี่ยงคำธรรมดาทั่วไป และ ยำปลีไก่บ้าน ต้มยำปลาคังแซ่บถึงใจมากๆ
GPS: https://goo.gl/maps/4eiMnRjwyyWtBqLN8
5.พระธาตุศรีสองรัก ด่านซ้าย
พิกัดที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนด่านซ้าย พระธาตุศรีสองรัก ที่ผู้คนนิยมแวะมาขอพรให้เกื้อหนุนช่วยเหลือ “เรื่องความรักและหน้าที่การงาน สายมูต้องไม่พลาดนะ”
พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อ เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือ เวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติ ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจ และมีการรุกรานดินแดนต่าง ๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและ แม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร
ชาวอำเภอด่านซ้าย นิยมนำ“ต้นผึ้ง” หรือ “ต้นดอกเผิ่ง” (ในภาษาอีสาน) ทำจากโครงไม้ไผ่เป็นทรงสามเหลี่ยมหรือทรงหอปราสาทขนาดกว้างราว 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตกแต่งเป็นต้นผึ้งมีดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ติดตรงกลางแทนเกสรดอกไม้ แล้วจึงนำมาบูชาถวายแด่องค์พระธาตุ ซึ่งแต่ละปีจะมีชาวด่านซ้ายและชาวเลยมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ใครที่มาขอพรองค์พระธาตุแล้วบนด้วยต้นผึ้ง ก็มักจะสมหวัง
GPS: https://goo.gl/maps/Gm483TLmGEbzRJn86
6.วัดโพนชัย ด่านซ้าย
วัดโพนชัย มีวิหารหลวงเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดของวัด เป็นอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่ได้รับอิทธิพลจากรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านช้าง หันหน้าไปทางทิศใต้สู่แม่น้ำหมันและตัวชุมชนเมืองด่านซ้าย เดิมเป็นวิหารโถง เสาไม้ แต่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนบนเป็นเครื่องไม้มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ส่วนล่างเป็นผนังก่ออิฐถือปูน มีช่องหน้าต่าง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อพระเจ้าใหญ่” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 79 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง ฝีมือช่างท้องถิ่น อายุราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 สันนิษฐานว่าอาจจะสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างวัดโพนชัย “เมื่อมาถึงแล้วก็มักจะตั้งจิตอธิษฐานขอพร ขอโชคขอลาภ ขอให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรง“
GPS: https://goo.gl/maps/P2uKoT9re3baTM5r8
นอกจากนี้ ภายในวัดโพนชัย ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ซึ่งเก็บรวบรวมงานประเพณีบูญหลวงและการละเล่นผีตาโขน รวมถึงประวัติความเป็นมาของอำเภอด่านซ้ายอีกด้วย
7.NANA CAFE’ at Dansai
คาเฟ่เล็กๆ สีขาว ริมถนนสายหลักด่านซ้าย ตกแต่งสไตล์มินิมอล มีที่นั่งภายในร้านประมาณ 5 โต๊ะ หน้าร้านเป็นกระจกใสบานใหญ่เลยปิดม่านด้านในเพื่อให้เป็นมุมถ่ายรูปหน้าร้านได้
GPS: https://goo.gl/maps/SBRhTfNHfbsoytam8
ออกจากด่านซ้ายประมาณ 15.00 จุดหมายต่อไปอำเภอนาแห้ว ห่างจากด่านซ้าย 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
8.วัดโพธิ์ชัย นาพึง นาแห้ว
วัดโพธิ์ชัย นาพึง เป็นวัดเก่าของอำเภอนาแห้ว สร้างขึ้นเมื่อครั้ง พุทธศตวรรษที่ 22-23 ภายในวัดมีวิหารเก่าแก่ที่มีภาพจิตกรรมฝาผนังฝีมือช่างพื้นถิ่นที่งดงาม วิหาร เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผื้นผ้าผนังก่ออิฐถือปูนหันหน้าไปทางทิศเหนือ มีประตูทางเข้า 3 ทาง คือด้านทิศเหนือ ด้านทิศตะวันออก และด้านทิศตะวันตก ที่ประตูทั้งสามทิศมีศัตว์หิมพานต์ หมอบอยู่ด้านละ 1 คู่ ส่วนผนึงทิศใต้ก่อทึบ หลังคาทรงจัวมุงด้วยไม้แป้นเกล็ด มีชายคาปีกนก โดยรอย รองรับด้วยเสาไม้ หลังคาวิหารคลุมต่ำมาก ซึ่งเป็นแบบเฉพราะของอาคารท้องถิ่นจังหวัดเลยและยังช่วยป้องกันภาพจิตรกรรมฝ่าผนังอีกด้วย
ภาพจิตรกรรมฝาผนังปรากฏอยู่ ทั้งที่ผนังด้านในและผนังด้านนอก ด้านในเขียนเรื่องพุทธประวัติ และ พระเวสสันดรชาดกด้านนอกเขียนเรื่อง เมมิราชชาดก สังข์ศิลป์ชัย และการะเกตสะท้อนให้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ และการนับถือศาสนาของชาวบ้านนาพึงในช่วงสมัยอยุธยา และช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ ลักษณะของลายเส้นและการใช้สีบ่งบอกถึงความมีอิสระและเป็นศิลปะพื้นถิ่นอย่างแท้จริง
GPS: https://goo.gl/maps/mCvtgLeLaAphUJDd8
เราจะเข้าที่พักกันเลย ถ้าสายลุยอยากนอนเต็นท์ก็ขึ้นไปนอนบนภูค้อ
ถ้าอยากนอนสบายหน่อยก็นอนที่ ทัศนีย์ รีสอร์ท ได้ เจ้าของเดียวกันครับ
ตอนเช้าเราจะไปชมทะเลหมอกที่ภูค้อกัน
GPS ทัศนีย์ รีสอร์ท : https://goo.gl/maps/9xnNRhCzCn9S4hvW9
รีวิวนอนเต็นท์บนภูค้อ นาแห้ว : https://bit.ly/3FvbZ1a
วันที่ 2 นาแห้ว-เชียงคาน
9.ภูค้อ นาแห้ว
การขึ้นภูค้อ ทางทัศนีย์รีสอร์ทจะมีรถบริการรับส่ง เป็นรถอีแต๊ก หรือกระบะ 4×4 ราคาต่อเที่ยว เที่ยวละ 400 บาท หรือเราสามารถนำรถขึ้นไปได้เองจะเป็นรถโฟร์วีลหรือรถกระบะ 4×4 ที่มีแรงขับเคลื่อนได้ดี เพราะทางจะชัน รถจะไม่สามารถสวนทางกันได้ ต้องดูกันดี ๆ ว่าใครจะขึ้นจะลงก่อนกันส่วนค่ากางเต็นท์ คิดเต็นท์ละ 100 บาท/คืน เท่านั้น!!
GPS ภูค้อ: https://goo.gl/maps/E14ZbE9rRuy5H4D96
ประมาณ 8 โมง ให้ออกจากที่พักออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ “วัดศรีโพธิ์ชัย” วัดที่ Unseen สุดๆ สวยมากๆ ในอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
10.วัดศรีโพธิ์ชัย บ้านแสงภา นาแห้ว
วัดศรีโพธิ์ชัย หนึ่งในวัดที่สวยที่สุดในจังหวัดเลยครับ มีโอกาสเเวะเวียนมาไหว้ขอพร เเละถ่ายภาพสวยๆได้ ที่นี่คือ อ.นาแห้ว จ.เลยลักษณะเด่น พระอุโบสถ ที่มีลักษณะคล้าย วัดเชียง ของเมืองหลวงพระบาง ในสาธารณรัฐประธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งในปัจจุบันนั้น วัดนี้ก็ได้รับอิทธิพลศิลปะจากที่ต่างๆ ทั้ง อยุธยา ล้านช้าง และจีน ผสมผสานกัน โดยภายนอกอาคาร จำพวกส่วนหน้าบัน คันทวย จะตกแต่งด้วยการสลักลายเป็นลายก้านขด กระหนก นาคเคล้า ภาพรามเกียรติ์ และพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เป็นต้น
GPS: https://goo.gl/maps/PfSL6cD3SkHSUr6x7
11.ผาหมวก จุดชมวิวไทย-ลาว
ผาหมวก ภูผาหนอง บ้านนาโพธิ์ ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย สามารถมองเห็นบ้านนาแห้ว บ้านนาโพธิ์ บ้านเหมืองแพร่ฝั่งไทยและบ้านเหมืองแพร่ฝั่ง สปป ลาว (จุดสังเกตุอยู่ที่มีแม่น้ำเหืองกั้นแบ่งเขตแดน) ในฤดูหนาว และฤดูฝนจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่งในอำเภอนาแห้ว ในยามเช้า
GPS: https://goo.gl/maps/hS3AEhsphXsnBLFS9
ออกจากนาแห้วประมาณ 10 โมง เราจะมุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงคาน เดินทางเลียบริมแม่น้ำโขง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
12.ป้าอุ๋ม ตําซั่วนาบอน อำเภอเชียงคาน
ร้านส้มตำฉบับเชียงคาน “ร้านป้าอุ๋ม ตำซั่วนาบอน” ตำขนมจีนเส้นสดที่บอกเลยว่า แซ่บมากกกกกกก ขนมจีนทำเองบีบเอง สดใหม่ ยิ่งร้านหมูทอดตรงข้าม กินคู่กับส้มตำเข้ากันสุดๆ เหมือนเกิดมาเป็นเซี่ยวกันตั้งแต่ชาติก่อน
ข้าวปุ้นฮ้อน ขนมจีนเส้นสด กินพร้อมกับน้ำสูตรพิเศษที่ป้าอุ๋มทำให้ กินพร้อมผักลวก อย่างอร่อยเลยย ใครมาเชียงคาน ต้องไม่พลาดนะ!!!
GPS: https://goo.gl/maps/x4jzonsifHJdeMBK7
ประมาณ 14.00 น. เข้าเช็คอินที่พักเชียงคาน พักผ่อนตามอัธยาศัย ประมาณ 16.00 น.ออกไหว้พระที่ วัดศรีคุณเมือง เชียงคาน
13.วัดศรีคุณเมือง เชียงคาน
“วัดศรีคุณเมือง” หรือ “วัดใหญ่” อยู่ที่ถนนชายโขง ซอย 7 สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2485 วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา นอกจากนี้บริเวณผนังด้านหน้าของพระอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปรากฏให้เห็นอยู่เต็มหน้าบรรณ ซึ่งภาพทั้งหมดนี้เป็นภาพนิทานชาดกชุด พระเจ้าสิบชาติ และถ้าสังเกตยังบริเวณด้านล่างของภาพจะเห็นว่ามีรูปรถตุ๊กตุ๊กอยู่ด้วย ทำให้สันนิฐานได้ว่า น่าจะเป็นภาพที่ถูกเขียนขึ้นมาใหม่หรืออาจมีการแต่งเติมลงไปบนภาพเขียนเดิม ก็เป็นได้
GPS: https://goo.gl/maps/7hJ9dWDCWLwrsqJM6
หลังจากไหว้พระเสร็จ ขับรถมุ่งหน้าสู่ “สกายวอล์คเชียงคาน” ใช้เวลาการเดินทาง 30 นาที
14.ชมพระอาทิตย์ตก สกายวอล์ค เชียงคาน ไหว้ “พระใหญ่ภูคกงิ้ว”
“สกายวอล์ค เชียงคาน” Landmark ใหม่ อำเภอเชียงคาน ไปเดินบนพื้นกระจกใส ชมวิวแม่น้ำโขง ที่มีความสูงจากระดับน้ำของแม่น้ำโขงกว่า 80 เมตร ชมวิวแม่น้ำสองสีที่แม่น้ำเหืองที่ไหลมาจากทางอำเภอนาแห้ว ได้มาบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ได้ไหลวกกลับเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ณ จุดที่เป็นที่ตั้งของ สกายวอล์คเชียงคาน และพระใหญ่ภูคกงิ้ว จากนั้นกราบขอพร “พระใหญ่ภูคกงิ้ว” หรือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง 19 เมตร ตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ และในมหา มงคลแห่งราชพิธีราชาภิเษก ครบ 50 ปี
เชื่อกันว่าถ้าใครได้มากราบไหว้องค์ท่าน ก็จะเกิดความปลอดภัยแก่ตนเองและครอบครัวทั้งชีวิตและทรัพย์สินเงินทอง เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งมวล
GPS: https://goo.gl/maps/G9ethbtNKSqM1zhm6
15.ถนนคนเดิน เชียงคาน
เมื่อมาถึงเชียงคานสิ่งที่ห้ามพลาดอย่างยิ่งก็คือการมาเดินหาของกินซื้อของต่างๆ ที่ถนนคนเดิน ผมขอบอกเลยว่าสายกินมีอิ่มแน่นอน เพราะบนถนนคนเดินของกินเยอะมาก เยอะจนแบบไม่รู้จะกินอะไรดี ใครสายกินแบบผมแนะนำว่าให้ซื้ออย่างละนิดละหน่อยมาลองกินดู เท่าที่ผมซื้อมาแล้วหลายๆ ที่นี่รสชาติเรียกได้ว่าใช้ได้เลย “ถนนคนเดินเชียงคาน” ตั้งอยู่ถนนสายล่าง(ใกล้กับแม่น้ำโขงมากที่สุด) จะเริ่มต้นตั้งแต่วัดท่าครกไปจนถึงวัดศรีคุณเมือง เรียกได้วว่าเดินกันจนขาลากกันเลยทีเดียว(เดินไปแล้วอย่าลืมเหลือแรงเดินกลับนะครับ) ปัจจุบันถนนคนเดินเชียงคานจะมีทุกวัน ตั้งแต่ 17:00 – 22:00 (ช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ของจะเยอะกว่าวันธรรมดา) แต่ผมแนะนำให้มาเร็ว ๆหน่อย เพราะว่าที่จอดรถหายากมาก มาช้าอาจจะได้จอดไกลขึ้น สำหรับลานจอดรถจะจอดได้ในวัดท่าครก วัดศรีคุณเมือง ถนนหน้าสวนสาธารณะริมโขง และในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ทางโรงเรียนบ้านเชียงคานก็เปิดให้เข้าไปจอดได้ แต่ถ้าใครอยากตัดปัญหาเรื่องลานจอดรถก็สามารถพักโฮมสเตย์ในถนนคนเดินได้เลย มีหลายเจ้ามาก แต่ผมยังไม่เคยไปสักเจ้าเลยไม่รู้จะแนะนำอันไหน เอาไว้มีโอกาสไปที่ไหนเมื่อไหร่จะเอามารีวิวให้ครับ สุดท้ายในข้อนี้ผมไม่เขียนอะไรมากมายให้รูปภาพเล่าเรื่องเลยครับ
GPS: https://goo.gl/maps/pgn8DFoaMAynnDjD6
วันที่ 3 เชียงคาน-ภูเรือ
16.พระอาทิตย์ขึ้นที่ ภูทอก บรรยากาศยามเช้าเชียงคาน
เช้ามาตื่นแต่เช้าขึ้น “ภูทอก” จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามแห่งหนึ่งในภาคอีสาน พร้อมเสพทัศนียภาพแบบพาโนราม่ารอบเมืองเชียงคานและวิวสองฝั่งแม่น้ำโขง รวมถึงเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมของเมืองเชียงคานอีกด้วย นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาว เพราะจะได้สัมผัสกับปุยหมอกหนาๆ ที่มาปะทะร่างกายเราตั้งแต่นั่งรถขึ้นภูจนถึงยอดภูเลยทีเดียว
GPS: https://goo.gl/maps/4UAZJd8mkzXYGUAm7
17.ตักบาตรข้าวเหนียว ถนนคนเดินเชียงคาน
“ตักบาตรข้าวเหนียว” เชียงคาน จ.เลย เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง ของเมืองเชียงคาน คือ การตักบาตรข้าวเหนียว ในยามเช้า นักท่องเที่ยวจะมานั่งรอใส่บาตร ข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน ของวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย และงดงาม
ช่วงเช้าแบบนี้จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวออกมาใส่บาตรกันมาก และพระสงฆ์ก็จะเยอะมากเช่นกันเดินมาเป็นแถวยาวๆ เป็นระเบียบสวยงามมากการใส่บาตรข้าวเหนียวชาวเชียงคานถือว่าเป็นกิจวัตรแรกของวันที่ต้องปฏิบัติก่อนที่จะแยกย้าย ออกไปทำภารกิจการงานของตนและสิ่งที่คนเชียงคานรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ได้ยึดถือและปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ ต้องไม่สวมรองเท้าเวลาใส่บาตรเนื่องจากพระสงฆ์ท่านเดินเท้าเปล่า ดังนั้นการสวมรองเท้าจะถือว่าอยู่สูงกว่าพระสงฆ์
ข้าวเหนียวที่จะนำมาใส่บาตร จะต้องเป็นข้าวเหนียวที่นึ่งมาใหม่ๆ และแยกออกมาโดยเฉพาะเพื่อใส่บาตรเท่านั้น การใส่บาตรข้าวเหนียวจะต้องหยิบข้าวเหนียวขึ้นมาเป็นก้อนเล็กๆ ไม่ต้องปั้น ใส่ลงไปในบาตร การใส่บาตรข้าวเหนียว ชาวเชียงคานจะไม่นิยมใส่อาหารใดๆ และชาวเชียงคานจะไม่นำเงินใส่บาตรพระโดยเด็ดขาด
หลังจากที่ ใส่บาตรข้าวเหนียวเรียบร้อยแล้ว ชาวเชียงคานก็จะทำอาหารไปจังหัน (ถวายพระ) ที่วัด ซึ่งมีอยู่หลายวัดในเชียงคาน ได้แก่ วัดภูช้างน้อย วัดสันติวนารามวัดโพนชัย วัดศรีคุณเมือง วัดป่ากลาง หรือ วัดมัชฌิมาราม วัดมหาธาตุ วัดป่าใต้ วัดศรีพนมมาศ วัดท่าคก โดยสามารถเลือกไปวัดที่ใกล้ที่พักได้อย่างสบาย
GPS: https://goo.gl/maps/FzX8zi8FMFXGA1uFA
18.ร้านซอยซาว ข้าวเปียกเส้น
“ร้านซอยซาว ข้าวเปียกเส้น” ร้านอาหารเช้าชื่อดังที่ใครมาเชียงคานแล้วก็ต้องพากันไปฟินกับมื้อเช้ากันที่นี่ ถึงแม้จะเป็นร้านอาหารเช้าแต่ที่นี่เปิดแบบ All day Breakfast เมนูต้องห้ามพลาดของที่นี่คงหนีไม่พ้น ข้าวเปียกเส้นและไข่กระทะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น ข้าวต้ม โจ๊กหมู หมูยอลวกจิ้ม และข้าวราดแกง สำหรับที่นั่งก็มีให้เลือกทั้งโซนในตัวร้านและนอกตัวร้าน นั่งกินเมนูอร่อยๆ พร้อมชมวิถีชีวิตของชาวเชียงคานไปด้วย รับรองว่าเพื่อนๆ จะหลงเสน่ห์เมืองเชียงคานอย่างไม่รู้ตัว
GPS: https://goo.gl/maps/RyLDku4irKX1rBXS
19.วัดพระบาทภูควายเงิน เชียงคาน
โบราณสถานเก่าแก่ทางพระพุทธศาสนาอีกแห่งหนึ่ง ในอำเภอเชียงคานจังหวัดเลยถือเป็น ศาสนสถาน ศักดิ์สิทธิ์ สำคัญที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมานาน แต่อดีตซึ่งในครั้งเก่าก่อนเชื่อกันว่า ใครก็ตามที่จะมาถึงวัดพระพุทธบาทภูควายเงินได้ ต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาจริง ๆ เท่านั้น ส่วนคนที่มีบุญหรือมีวาสนาไม่ถึงก็จะมีเหตุและอุปสรรค์ต่าง ๆ ทำให้มาไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ในปัจจุบันการเดินทางมาวัดแห่งนี้ สามารถทำได้อย่างสะดวกโดยใช้เส้นทางสายเชียงคาน-ปากชมที่มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตรเมื่อถึงหมู่บ้านผาแบ่นแล้วให้ไปตามทางแยกเข้าบ้านอุมุงอีกประมาณ 3 กิโลเมตรจะถึงทางขึ้นเขาซึ่งเป็นทางลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพระพุทธบาทภูควายเงินแห่งนี้ จากหลักฐานที่บันทึกประวัติความเป็นมาของวัด ได้ระบุไว้ว่าวัดพระพุทธบาทภูควายเงินสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2300 เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาสูงจากระดับทะเลปานกลาง 400 เมตรนอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องเล่าต่อกันมาด้วยว่า ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง แต่มักจะมีพระธุดงค์เดินทางมาปักกลดบำเพ็ญเพียรอยู่เสมอ และในบริเวณวัดยังมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ภายใต้ซุ้มอิฐใหญ่ ขนาดพอที่คนจะเข้าไปนั่งได้ 2 คนซึ่งในภาษาถิ่นจะเรียกสิ่งปลูกสร้างในลักษณะนี้ว่า”อุบมุง” ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นชื่อหมู่บ้านทางทิศตะวันออกของวัดคือบ้านอุมุง ที่หมู่บ้านอุมุงแห่งนี้ มีชาวนาผู้หนึ่งที่มักพาควายขึ้นมาหาหญ้ากินบนภูเขาบริเวณวัด และเมื่อมีพระธุดงค์ผ่านมาชาวนาผู้นี้ก็จะนำเอาอาหารมาถวายแก่พระธุดงค์เป็น ประจำ ซึ่งอานิสงส์แห่งการถวายทานนี้เอง ทำให้ชาวนาทำนาขายข้าวได้เงินมากทุกปี จนร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีและด้วยสำนึกในบุญคุณของควาย ที่ช่วยไถนาปลูกข้าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชาวนาจึงเรียกควายตัวนี้ว่า”ควายเงิน” วัดแห่งนี้จึงตั้งชื่อว่า”วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน”
สำหรับสิ่งที่น่าสนใจ ในบริเวณวัดพระพุทธบาทภูควายเงินแห่งนี้ ก็คือรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่บนหินลับพร้า (หินลับมีด) ซึ่งมีลักษณะเป็นรอยแตก แต่ไม่มีอักษรจารึก ขนาดกว้างประมาณ 1 ศอก ยาวประมาณ 1 วา รูปลักษณะเหมือนรอยพระพุทธบาทจริง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478
GPS: https://goo.gl/maps/BtkU92MJFPoZgHhTA
20.ร้านกาแฟริมโขง บ้านติดดิน เชียงคาน
คาเฟ่บ้านติดดิน อยู่ติดริมโขง วิวแก่งคุดคู้เลยครับ คาเฟ่ดีไซน์ล้ำกว้างใหญ่แบบโอเพ่นแอร์ ตกแต่งสวยงาม มองเห็นวิวเกาะแก่งและแม่น้ำโขงที่อยู่ด้านหน้า ที่ร้านมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายเลย บรรยากาศร้านสไตล์วินเทจที่ตกแต่งไปด้วยไม้ไผ่เกือบทั้งหลัง บรรยากาศดีวิวสวย จุดเด่นของที่นี่คือมุมถ่ายรูปแม่น้ำโขงและภูเขาด้านหลัง และที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็นมุมต้นไม้ริมแม่น้ำโขง ที่ยืนสง่าอยู่ท่ามกลางหญ้าสีเขียว ที่ใครๆเห็นเป็นต้องถ่ายมุมนี้ อยากบอกเลยว่าถูกใจสายถ่ายรูปแน่นอน
GPS: https://goo.gl/maps/cZZLDxTJHujwPcqx5
21.มะพร้าวแก้ว ของฝากเชียงคาน
มะพร้าวแก้ว ถือเป็นของดีประจำแก่งคุดคู้ เชียงคานเลย เพราะมะพร้าวแก้วของที่นี่มีหลายแบบให้คุณได้เลือก อย่างเช่น มะพร้าวแก้วที่ทำมาจากมะพร้าวแก่ขูดเป็นเส้นๆ รสชาติหวานมัน เคี้ยวเพลินหยุดไม่อยู่ สามารถเก็บได้นานเป็นเดือนเลย ส่วนเป็นมะพร้าวแก้วที่มาจากมะพร้าวอ่อน รสชาติหวานมัน นุ่มหนึบ แต่อายุของมะพร้าวแก้วอันนี้จะอยู่ได้เพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น แหล่งซื้อก็แถวๆแก่งคุดคู้ มีเพียบเลยครับ เลือกร้านตามสบายเลย
GPS: https://goo.gl/maps/HqPGyBfACCiK5SJz7
ได้ของฝากแล้ว จุดหมายต่อไปเรามุ่งหน้าสู่ห้วยกระทิง ใช้เวลาจากเชียงคานประมาณ 1.5 ชั่วโมง ไปทานอาหารกลางวันกันครับ
22.อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง
อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง หรือเรียกอีกชื่อว่า อ่างเก็บน้ำหมานตอนบน ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.เลย ในพื้นที่การดูแลของวนอุทยานหริรักษ์ เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งใน ที่บรรยากาศเป็นธรรมชาติล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของป่าไผ่ และภูเขาที่โอบล้อม กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาใช้เวลาในวันพักผ่อนที่นี่ก็คือ การล่องแพพักผ่อน พร้อมทานอาหารท่ามกลางวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศที่สวยงาม ร่มรื่น และเย็นสบายจากลมที่พัดมาในอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง ที่นี่มีแพร้านอาหารให้บริการหลายเจ้ามีอาหาร ให้บริการหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นอาหารอีสาน เช่น ส้มตำ ลาบ ยำ ปลานิลเผา อาหารพื้นบ้าน ไก่ทอดสมุนไพร นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวห้วยกระทิงซึ่งสามารมองเห็นวิว หุบเขาเบื้องล่างและบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำกลางหุบเขาและแพที่ลอยนิ่ง อยู่เหนือน้ำ ในมุมสูงได้อย่างงดงาม
GPS: https://goo.gl/maps/SYEBUHUeYWPBnTWN7
ออกเดินทางต่อเข้าภูเรือ จุดหมายต่อไปของเราคือ วัดป่าห้วยลาด ใช้เวลาการเดินทางจากห้วยกระทิงใช้เวลาประมาณ 40 นาที
23.วัดป่าห้วยลาด ภูเรือ
วัดป่าห้วยลาด เป็นวัดป่าที่มีความสวยงามน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย ภายในบริเวณวัดมีศาลาเฉลิมพระเกียรติทรงไทยประยุกต์ที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงามผสมผสานกับทัศนียภาพทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบริเวณด้านหน้าและมีทิวเขาภูคลั่งเป็นฉากหลัง ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อขาวองค์ใหญ่นามว่า พระสัพพัญญูรู้แจ้งสามแดนโลกธาตุ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธากันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีประติมากรรมต่างๆ เช่น องค์พระแม่กวนอิม พญานาค พระอินทร์ พระพิฆเนศและพระตรีมูรติ ประดับอยู่โดยรอบให้เที่ยวชม และแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วยเรียกได้ว่ามาวัดเดียวได้ไหว้ขอพรแบบครบๆเลย
GPS: https://goo.gl/maps/f2cBcU16AgrLP5aWA
24.สวนลุงวุฒิ ภูเรือ
สวนลุงวุฒิ เป็นแหล่งผลิตพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับแหล่งใหญ่ในจังหวัดเลยมานานกว่า 20 ปี จุดเด่นอยู่ที่โรงเรือนเพาะพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ที่ให้บรรยากาศเหมือนเราได้เดินชมธรรมชาติไปด้วย เลือกซื้อพันธุ์ไม้ไปด้วย การเพาะกล้าไม้ออกจำหน่ายเริ่มต้นจาก สับปะรดสี จากนั้นค่อยๆ เพิ่มชนิดของต้นไม้เรื่อยมา มีต้นไม้เด่นๆ หลายอย่างได้แก่ กุหลาบหิน สับปะรดสี แคคตัส กุหลาบพันปี โบตั๋น หม้อข้าวหม้อแกงลิง และอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิด แต่พืชหลักที่มียอดขายสูงสุดคือสับปะรดสีและแคคตัส
GPS: https://goo.gl/maps/SaJ8zQhH4BhVhaeZ7
25. Cafe DE MEENA ภูเรือ
ร้านกาแฟ Cafe’ De Meena ค่าเฟดีมีนา อำเภอภูเรือ จ้งหวัดเลย เป็นร้านที่น่านั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศทุ่งนาที่เขียวขจี ร้านออกแบบให้เป็นบ้านหลังเล็กๆ แต่ที่โดดเด่นที่นักท่องเที่ยวชอบ เดินไปถ่ายรูปบนสะพานไม้ ที่ทอดยาวเข้าไปกลางทุ่งนา เหมาะสำหรับไปนั่งชมบรรยากาศและวิวที่สวย และมีระเบียงให้นั่งชมวิวทุ่งนาพร้อมจิบกาแฟ ขนมและเบเกอรี่ไปด้วย
เมนูต่างๆของทางร้าน มีความพิเศษที่น่าสนใจ คือ วัตถุดิบนั้นเป็นแบบพื้นบ้านปลูกเองเละปลอดสารพิษ เป็นจุดเด่นของร้านเลย
GPS: https://goo.gl/maps/voXW96Ty9JZqpDpp6
26.วัดสมเด็จภูเรือ (มิ่งเมือง)
วัดสมเด็จภูเรือ (มิ่งเมือง) เป็นพระอารามที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้ทรงพระราชทานเงินซื้อ ที่ดินสร้างวัดนี้ วิหารของวัดสร้างจากไม้สักทั้งหลัง โดยช่างได้บรรจงแกะสลักอย่างวิจิตรทั้งภายนอกและภายในให้เป็นลวดลายในตำนานพุทธประวัติและวรรณคดี ที่สวยงามมาก และยังมีภาพวาดจิตรกรรมของเกจิอาจารย์สายหลวงปู่ มั่น ภูริทตฺโต อีกทั้งภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวง ร.9 และ พระสาทิสลักษณ์สมเด็จย่า บนผืนผ้าใบจากจิตรกรชาวจังหวัดเลยระดับรางวัลพู่กันเงิน
กราบนมัสการองค์ พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภา จอมแพทย์ หรือ พระกริ่งปวเรศ องค์พระพุทธรูปปางหมอยา เป็นพระพุทธรูปลักษณะนั่งขัดสมาธิราบ เหมือนปางมารวิชัย แต่พระหัตถ์เบื้องซ้ายถือหม้อน้ำมนต์ ที่องค์พระได้บรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้ และเชื่อกันว่าใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรกับองค์พระกริ่งฯ ที่วัดสมเด็จภูเรือ(มิ่งเมือง) แห่งนี้ จะมีแต่สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ไข้
GPS: https://goo.gl/maps/YeVwobKNeZhqoVW2A
จบแล้วครับ กับ 26 พิกัดเที่ยวเลย 3 วัน 2 คืน : ภูพระ ภูลมโล ด่านซ้าย นาแห้ว เชียงคาน ภูเรือ แบบจุกๆ เห็นแล้วใช่มั้ยครับว่า “เลย” เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตในภาคอีสาน เมืองที่สวยงามทั้งธรรมชาติ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต อาหารการกิน ก็อร่อยไม่แพ้ที่ไหน รอให้คุณไปสัมผัส มาแพลนไปเที่ยวเลยกันดีกว่า
